การพลิกฟื้นธุรกิจ SMEs ด้วยตลาดทุน
ช่วงที่ผ่านมาหลังการแพร่ระบาดของโควิด19 อย่างหนักไปทั่วโลก ปรากฏว่าหลังจากมีบริษัทยายักษ์ใหญ่ถึง 3 แห่งสามารถผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด19 ได้ ระบบเศรษฐกิจโลกสามารถพลิกฟื้นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว สังเกตุได้จะตลาดหุ้นทั่วโลกมีการปรับตัวขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย (+15%) โปรตุเกส (+13%) รัสเซีย (+11%) สเปน (+10%) เกาหลีใต้ (+12%) อินโดนีเซีย (+11%) ไต้หวัน (+9%) ซึ่งโดยเฉลี่ยตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะในส่วนของหุ้นที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ หรือที่เรียกว่า หุ้น Cyclical มีการปรับขึ้นถึง 5%
การรปรับตัวของตลาดทุนดีขึ้นแต่โครงสร้างเศรษฐกิจที่แท้จริงยังไม่ดี
ประเทศไทยก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลกที่ตลาสดหุ้นมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วอัตราการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง +15% ซึ่งทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจดูดีแต่ความเป็นจริงแล้วภาวะเศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอและถึงแม้จะเริ่มมีการผลิตวัคซีนโควิด19 แล้วประเทศไทยต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1.6 ปีเพื่อให้มูลค่าทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) จะฟื้นกลับไปสู่ระดับก่อนโควิด19 แน่นอน
ธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวซึ่งเกี่ยวโยงไม่ธุรกิจในภาคส่วนอื่นๆ ตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับบนสุดเป็นสิ่งที่น่าห่วง น่ากังวลมากที่สุด แม้ภาครัฐได้ออกหลายมาตรการเพื่อช่วยเหลือ SMEs หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารออมสิน โครงการค้ำประกันสินเชื่อ ของ บสย. มาตรการพักชำระหนี้ของแบงก์ชาติ ฯลฯ แต่ก็ยังไม่เพียงพอและสามารถเข้าถึงได้อยากในความเป็นจริง เงื่อนไขของสถาบันการเงินในเรื่องของรายละเอียดยุ่งยาก ซับซ้อนและไม่มีความแตกต่างไปจากการขอสินเชื่อทั่วๆ ไป ส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้นอกระบบตามมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ภาครัฐเองมีนโยบายกำจัดและจำกัดหนี้นอกระบบได้ดีแล้วก็ตามที่จะดูแล SMEs ได้ทั้งหมด
ตลาดทุนวันนี้ ช่วย SMEs ได้อย่างไร
ในความเป็นจริงแล้วตลาดทุนมีศักยภาพเหลือล้นในการเป็นแหล่งทุนสำหรับภาคธุรกิจ แต่อุปสรรคที่แท้จริงก็คือ ความไม่เข้าใจและความไม่คุ้นเคยในการลงทุนธุรกิจ SMEs ของนักธุรกิจตลาดทุนนั่นเอง และที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมีการออกกองทุนเพื่อไปลงทุนในหุ้นกู้ หรือหุ้นทุน ของ SMEs ทางออกที่ดีที่สุดคือการที่ภาครัฐสมควรกระตุ้นให้นักธุรกิจตลาดทุนทั้งหลายเรียนรู้ธุรกิจภาค SMEs ให้มากขึ้นและสร้างแรงจูงใจเพื่อให้เข้าลงทุนในหุ้นธุรกิจ SMEs โดยสิ่งเดียวที่จะดึงดูดนักธุรกิจในตลาดทุนให้เข้ามาสนใจ เรียนรู้และกล้าลงทุนได้ดีที่สุดคือ “มาตรการทางภาษี” นั่นเองพร้อมๆ ไปกับมีกลไกรัฐในการช่วยค้ำประกันความสูญเสียจากการลงทุนในหุ้นกู้ SMEs ในอีกระดับหนึ่ง เพื่อลดความเสี่ยงของกองทุนให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทั้งมาตรการด้านภาษี ผลตอบแทน และการค้ำประกันโดยภาครัฐ เชื่อแน่ว่านักธุรกิจในตลาดทุนจะให้ความสำคัญและสนใจลงทุนในหุ้นธุรกิจ SMEs แน่นอน 100% ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมของ GDP ตามความเป็นจริงในที่สุด
# ไลอ้อน ปักธงผู้นำตลาดแหล่งใหม่ สินค้าสำหรับผู้สูงวัย