ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้
สืบเนื่องมาจากเหตุโควิด19 ซึ่งเป็นวิกฤตอันดับต้นๆ ที่สร้างปัญหาในด้านเศรษฐกิจ ให้เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง จนทำให้มีกิจการต่างๆ มากมายต้องล้มละลาย ไม่สามารถดำเนินการจัดการแก้ปัญหาในเรื่องของหนี้สิน จนทำให้มีการผิดนัดชำระหนี้หลายรายทั่วประเทศ และมีแนวโน้มว่าในอนาคตอาจจะกลายเป็นหนี้เสียที่เป็นปัญหาทำให้ประเทศไม่สามารถจะพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องได้
อีกทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลต่างๆหรือแม้แต่หนี้บัตรเครดิตของประชาชนรายย่อยก็กลายเป็นปัญหาสำหรับสถาบันการให้กู้เงินเช่นกัน ซึ่งเมื่อรวมกันทั่วประเทศแล้วก็อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจระดับประเทศได้เช่นกัน เนื่องจากปกติแล้วการชำระหนี้ของประชาชนหรือผู้ประกอบการต่างๆ ผู้ให้กู้มักจะได้กำไรจากดอกเบี้ย แล้วนำไปลงทุนในธุรกิจด้านอื่นๆ ทำให้เกิดกระแสการหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ
แต่หากเมื่อผลกระทบที่เกิดจากโรคระบาดทำให้ทั้งผู้ประกอบการและประชาชนรายย่อยเกิดการผิดนัดชำระหนี้และในอนาคตอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็อาจจะทำให้การลงทุนในด้านธุรกิจต่างๆ ที่ผู้ให้กู้มีโครงการจะกระทำหรือกระทำอยู่แล้วอาจจะต้องหยุดชะงักลง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการพัฒนาประเทศ ในด้านเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงเข้ามามีบทบาทในการที่จะหาทางออกให้กับลูกหนี้และเจ้าหนี้ โดยการเป็นตัวแทนกลาง จัดทำโครงการคลินิกแก้หนี้ ที่จะทำการช่วยเหลือทั้งปัญหาหนี้บัตรเครดิต และปัญหาหนี้สินส่วนบุคคล ให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนรายย่อย
โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะพยายาม นำข้อเสนอในการผ่อนปรนการชำระหนี้สิน ให้มีความเป็นไปได้ โดยที่เจ้าหนี้ไม่เสียผลประโยชน์มากจนเกินไปและลูกหนี้ก็จะไม่ต้องเกิดความลำบากมากจนเกินไป โดยการพยายามหาช่องทางให้ลูกหนี้สามารถมีกำลังที่จะชำระหนี้ได้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะจบสิ้นสัญญาการชำระหนี้ โดยไม่ให้มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องเสียเปรียบ
ซึ่งการไกล่เกลี่ยหนี้ครั้งนี้จะเปิดโอกาสสำหรับผู้ที่กำลังขาดสภาพคล่องและเริ่มชำระหนี้ล่าช้า รวมไปถึงผู้ที่ขาดการชำระหนี้ ผู้ที่ถูกดำเนินคดีฟ้องร้อง หรือผู้ที่ได้รับคำพิพากษาถูกฟ้องร้องด้านหนี้สินไปแล้วก็ตาม โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะเปิดโอกาสให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ ได้ลองมาเจรจาไกล่เกลี่ยอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการยื่นขอเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินในครั้งนี้จะดำเนินการผ่านทางช่องทางออนไลน์ เพื่อเป็นการตัดปัญหาและเพื่อป้องกันโรคระบาดโควิด 19 ลูกหนี้และผู้ให้กู้จึงไม่จำเป็นจะต้องมารวมตัวกันที่ศาล