ปรับตัวอย่างไรเมื่อบริษัทต้อง work from home
วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 นั้นส่งผลกระทบให้ผู้คนทั้งโลกนั้นต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตกันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการลดการสัมผัส การเว้นระยะห่างทางสังคม รวมไปถึงการทำงานที่บ้านหรือการ work from home แน่นอนว่าเมื่อสถานการณ์ดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตมันย่อมส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจด้วยเช่นเดียวกัน เพราะมนุษย์นั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และเมื่อมนุษย์นั้นต้องทำงานอยู่ที่บ้านรูปแบบการดำเนินธุรกิจก็ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไป บริษัทต่างๆ นั้นมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้นจากสถานการณ์วิกฤตดังกล่าวซึ่งถือว่าสามารถปรับวิกฤตให้เป็นโอกาสได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้กระดาษและหันมาใช้เอกสารออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น
หรือการประชุมการผ่านทางช่องทางออนไลน์ที่ไม่ว่าใครอยู่ที่ไหนก็สามารถประชุมร่วมกันได้อย่างไม่มีอุปสรรค แต่แน่นอนว่าความเคยชินนั้นทำให้เราสามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้นเพราะการแพร่ระบาดรอบหนึ่งสงบลงบริษัททั้งหลายก็พากันทำงานตามระบบเดิม แต่แล้วการแพร่ระบาดรอบ 2 ก็เกิดขึ้นจนได้ในต้นปี 2564 นี้ทำให้หลายบริษัทต้องกลับไป work from home ดังเดิม หลายบริษัทนั้นสามารถปรับตัวได้เป็นอย่างดีและมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้พนักงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ และมีแนวทางปรับเปลี่ยนให้การทำงานคงในรูปแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าสถานการณ์จะดียิ่งขึ้นก็ตาม แต่ในบางบริษัทนั้นก็ยังมีปัญหาเรื่องการปรับตัว แนวทางการปรับตัวให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้จากการที่พนักงานทำงานที่บ้านนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ
สถาบัน IMC ได้มีการออกนโยบายการทำงานที่บ้านโดยใช้ช่องทางการออนไลน์และเครื่องมือการทำงานในโปรแกรมต่างๆ ที่จะช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นแม้ว่าทุกคนนั้นจะไม่ได้มารวมตัวกันก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการประชุมออนไลน์หรือการเก็บไฟล์ต่างๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพไม่ต่างจากการนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศและลดอุปสรรครวมถึงปัญหาในการสื่อสารและการให้กำลังใจกันในการทำงาน ซึ่งบริษัทต่างๆ จะสามารถใช้นโยบายดังกล่าวนี้เป็นแนวทางในการปรับตัวให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้แม้ว่าพนักงานจะต้องทำงานที่บ้านก็ตาม ในการ work from home ครั้งแรกนั้นบริษัทต่างๆ
ยังไม่มีความพร้อมที่จะให้พนักงานทำงานที่บ้านจึงต้องเกิดการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดปัญหาในการดำเนินธุรกิจตามมา แต่อย่างน้อยมันทำให้เกิดบทเรียนที่จะทำให้การ work from home ในครั้งที่ 2 นี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและสามารถทำได้ดีไม่ต่างจากการทำงานในออฟฟิศ ไม่ว่าจะเรื่องรูปแบบการทำงาน การจัดเก็บเอกสาร การพูดคุยประชุมกัน รวมถึงเวลาในการทำงาน ซึ่งแต่ละบริษัทนั้นสามารถปรับรูปแบบการทำงานให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของตนเองได้อย่างยืดหยุ่น เป็นหนึ่งในข้อดีที่ทำให้บริษัทนั้นสามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นและรับมือกับวิกฤตการณ์ได้ดีมากยิ่งขึ้น
# เคล็ดลับการเลือกโบรกเกอร์เทรด bitcoin