ปูทางสู่สังคมไร้เงินสด เงินเยียวยา เราชนะ จากรัฐบาลรอบใหม่

จริงๆ แล้วรัฐบาลชุดนี้ มีนโยบายจะเปลี่ยนให้ประเทศไทยเป็นสังคมไร้เงินสดมานานหลายปีแล้ว แต่ก็ยังทำไม่ได้จริงสักที เพราะมีปัญหาเรื่องพ่อค้าแม่ขายนั้นไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือกันไปหมดเสียทุกคน และสำหรับบางคนที่มีนั้น ก็มีมือถือจริง แต่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนแบบที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ และก็ยังมีอีกหลายคน ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตส่วนตัวได้ ต้องไปรอใช้ไวไฟฟรีเอาก็ยังมีอยู่ไม่น้อย ซึ่งปัญหาที่เคยถูกซุกเอาไว้ใต้พรมเหล่านี้นั้นได้ถูกหยิบยกขึ้นมาตีแผ่อย่างชัดเจนเมื่อปีที่แล้ว ในตอนที่มีการแจกเงินเยียวยารอบแรก ว่ามีคนไม่สามารถลงทะเบียนรับเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือนได้ จนกระทรวงต้องร้อนเป็นไฟ เพราะประชาชนมากหน้าหลายตานั้น ต่างพากันเดินทางสลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนกันไปประท้วงไม่เว้นแต่ละวันเลยทีเดียว

งานนี้ทางรัฐบาลได้คิดมาตรการการคัดกรองที่ละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น ในงานแจกเงินเยียวยารอบใหม่อีก 7,000 บาท โดยคนที่จะได้รับเงินจำนวนนี้ ต้องมีคุณสมบัติครบทั้ง 7 ข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็น

1.เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

2.ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม

3.ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งกลุ่มนี้ได้รับรายได้เป็นปกติอยู่แล้ว

4.ไม่เป็นข้าราชการการเมือง

5.ไม่เป็นผู้ที่ได้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ

6.รายได้พึงประเมินในเรื่องของการเสียภาษีไม่เกิน 300,000 บาท

7.เงินฝากในทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท ตามฐานข้อมูลที่มีล่าสุด

โดยจะมีผู้ได้รับสิทธิ 31.1 ล้านคน โดยจะเน้นอาชีพรับจ้าง อาชีพอิสระ และผู้มีรายได้น้อย เช่น หาบเร่ แผงลอย รับจ้าง เกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบการรายเล็ก และไม่เป็นนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นหาบเร่ แผงลอย ร้านค้า ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าคนละครึ่ง และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ ในรอบนี้รัฐยังขยายประเภทสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ที่จำกัดวงการใช้เงินอยู่เพียงแค่ร้านอาหารและสินค้า OTOP ให้เราสามารถใช้เงินที่ได้รับไปจ่ายค่าบริการขนส่งสาธารณะ และการขนส่งส่วนบุคคล เช่น วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ ร้านตัดผม ร้านซักรีด ขนส่งสาธารณะ เช่น ขสมก. รถร่วม รถไฟฟ้า ผ่านแอพพลิเคชั่นถุงเงินของร้านค้า โดยร้านค้าต่างๆ สามารถลงทะเบียนกับเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. – 31 มี.ค.64 นี้อีกด้วย ทำให้เงินเยียวยาในรอบนี้ จะกระจายไปยังธุรกิจในหลายๆ ภาคส่วนได้อย่างทั่วถึงมากกว่าเดิมนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นการปูฐานการเปลี่ยนประเทศไทย ให้กลายเป็นสังคมไร้เงินสด ตามที่รัฐบาลเคยประกาศเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนอีกด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิในมาตรการเราชนะ แม้รัฐจะจ่ายเงินเยียวยาโควิดครบ 7,000 บาท ตามจำนวนที่กำหนดไว้แล้ว แต่ยังสามารถใช้เงินดังกล่าวได้ยาวถึงวันที่ 31 พ.ค.64

# รอให้ถึงเดือนกันยายน อาจช้าไป ธุรกิจหลายแห่งต้องการให้รัฐช่วยเยียวยา