ผ่อนปรนมาตรการกักตัวสำหรับนักลงทุนต่างชาติกับ BOI
หลังจากที่ภาพรวมของการคิดค้นวัคซีนป้องกันโควิด19 สามารถผลิตออกมาได้แล้วแม้จะยังไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกประเทศทั่วโลกก็ส่งสัญญาณเชิงบวกให้กับระบบเศรษฐกิจทั่วโลกให้กลับฟื้นตัวในภาพรวมได้เร็วขึ้น ซึ่งดูได้จากดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง +5% และในประเทศไทยเองตลาดหุ้นปิด +15% ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นเพื่อให้การฟื้นตัวเศรษฐกิจของไทยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการควบคุมป้องกันโรคระบาดของไทยดีเยี่ยมเป็นอันดับ 1 ของโลก ทางสภาพหอการค้าร่วมต่างประเทศในไทยจึงมีแนวคิดเสนอให้มีการผ่อนปรนระยะเวลาในการกักตัวนักธุรกิจ BOI ขึ้น
ความพยายามในการเรียกความเชื่อมั่นกลับมาในไทยผ่าน BOI
หอการค้าต่างประเทศ พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หารือกับหอการค้าร่วมต่างประเทศในไทย (JFCCT) โดยมีตัวแทนหอการค้าต่างประเทศ 35 คน เข้าร่วมหารือเพื่อเสนอปัญหาอุปสรรคการทำธุรกิจในไทยพร้อมถกประเด็นการผ่อนปรนเปิดประเทศรับนักธุรกิจ ผ่านมาตรการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่ต้องนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในการประชุม ศบค.ที่จะถึงนี้
แนวที่และอุปสรรคที่จะนำเสนอเพื่อลดเวลากักตัวนักธุรกิจ BOI
อุปสรรคการลงทุนในไทยหลังเกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด19 และเพื่อขจัดปัญหาพร้อมเสนอทางออกเพื่อการส่งเสริมการลงทุนในอนาคตผ่านมาตรการเค้าท์ดาวน์ปีใหม่ สรุปได้ดังนี้
การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในส่วนของนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่ปกติต้องกักตัว 14 วันในสถานที่สำหรับเป็นที่กักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ หรือ Alternative State Quarantine ซึ่งหากลดจำนวนวันที่กักตัวลงได้ จะช่วยในการส่งเสริมและนักลงทุนกล้าเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น
การดึงดูดการลงทุนในธุรกิจบริการโดยชาวต่างชาติ ให้เพิ่มวิธีการพิเศษด้วยการไม่ต้องขออนุญาตดำเนินธุรกิจในไทยภายใต้บัญชีแนบท้าย 3 ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ามาลงทุน ผลที่คาดว่าจะได้รับคือทำให้เกิดการจ้างแรงงานและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับไทยได้
การปรับระบบระเบียบต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้นเน้นการติดตามผลสำเร็จมากกว่าการตั้งเพดานควบคุม
ปรับกฎระเบียบปรีกย่อยสำหรับการเข้ามาทำงานของชาวต่างชาติโดยเฉพาะนักธุรกิจและช่างเทคนิคเช่นการขอวีซ่าพิเศษของนักธุรกิจต่างชาติผ่านช่องทางพิเศษที่เรียกว่าสมาร์ทวีซ่ารวมถึงการชอใบอนุญาตการเข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นต้น
โดยการปรับปรุงให้มีความสะดวกรวดเร็วจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนและสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
# ทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน” โครงการรับดีแค่ไหน แต่คนไทยไม่ช่วยกันมันก็เท่านั้น