ฝ่าวิกฤตธุรกิจการท่องเที่ยวไทยกับโควิค19 ระลอก 2
หลังจากไปปี 2563 เกิดการระบาดของโรค covid-19 ในประเทศไทยขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งต่อเนื่องมาจนถึงต้นปี 2564 ซึ่งไม่มีทีท่าว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงแต่อย่างใดแนวโน้มที่จะทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่กำลังจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมากลับพบสภาพที่ถดถอยลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับการฟื้นฟูธุรกิจการท่องเที่ยวในปี 2564 จะเดินหน้าต่อไปได้ต้องเป็นการร่วมมือกันระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหน่วยงานของรัฐภาคต่างๆและเอกชนเพื่อพลิกฟื้นให้ธุรกิจการท่องเที่ยวกลับคืนสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด
การท่องเที่ยวของไทยในวันนี้ต้นปี 2564
ปัจจุบันการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศอยู่ภายใต้ความมุ่งหมายที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวในยุค New Normal ให้มากที่สุดส่วนตลาดต่างประเทศการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเน้นสร้างความเชื่อมั่นเพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับประเทศไทยเป็น Top of mind หรือจุดหมายปลายทางที่มอบประสบการณ์ดีๆเน้นสื่อการสร้างความมั่นใจภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยทั้งชีวิตทรัพย์สินอนามัยด้วยการรณรงค์ทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆโดยใช้ชื่อว่า “เที่ยวเมืองไทยการ์ดไม่ตก”
ความเปลี่ยนแปลงที่ลำบากขึ้นในช่วงรอยต่อปี 2563 ถึงปี 2564
ในช่วงกลางปี 2563 ต่อเนื่องมาจนถึงต้นเดือนธันวาคม 2563 มีการฟื้นตัวอย่างจริงจังในธุรกิจการท่องเที่ยวภายใต้แผนงานไทยเที่ยวไทยเป็นอย่างมากแล้วมีการคาดหวังว่าไทยจะเริ่มฟื้นตัวจริงๆอาจจะเป็นช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 โดยภาคเอกชนได้ให้คำแนะนำกับหน่วยงานของรัฐและธุรกิจในวงการท่องเที่ยวให้มองประเทศสิงคโปร์เป็นตัวอย่างโดยทางประเทศสิงคโปร์ใช้วิธีการสั่งซื้อวัคซีนให้มีจำนวนมากกว่าประชากรที่อยู่ในประเทศนั่นหมายความว่าประเทศสิงคโปร์มีสต๊อกวัคซีนจำนวนมาก เพียงพอต่อนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยากเดินทางไปสิงคโปร์ไม่ว่าจะเป็นการไปทำธุรกิจหรือการไปหาซื้อวัคซีนจากประเทศดังกล่าวอย่างไรก็ดีประเทศไทยมีจำนวนประชากรและพื้นที่ในความรับผิดชอบมากกว่าประเทศสิงคโปร์อยู่ไม่น้อยดังนั้นนโยบายและตัวอย่างที่ทางภาคเอกชนได้ให้คำแนะนำจึงเป็นเพียงองค์ประกอบเล็กน้อยที่จะนำมาพิจารณาร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
บทสรุปธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยในปี 2564
ในช่วงเวลาที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายการกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการออกโครงการเที่ยวปันสุข / โครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่ช่วยได้ระดับหนึ่งจะหวังให้คนไทยเที่ยวอย่างเดียวคงเป็นไปไม่ได้เพราะเทียบค่าใช้จ่ายต่อหัวระหว่างนักท่องเที่ยวต่างชาติกับคนไทยต่างกันมากค่าใช้จ่ายของคนไทย 2 คนครึ่งถึงจะเท่ากับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 คนภาคธุรกิจการท่องเที่ยววิเคราะห์ทิศทางในปี 2564 ต่างเห็นตรงกันว่าต่างถ้าจะไม่เข้ามาเที่ยวแน่นอนดังนั้นผู้ประกอบการต้องปรับตัวเองเพื่อความอยู่รอดขณะที่รัฐบาลต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วยการพักชำระหนี้ให้ผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวหรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวทั้งหลายอย่างน้อยเป็นเวลา 3 ปีเพื่อให้มีการปรับตัวและเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค covid-19 ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกได้อย่างไรก็ตามมีความเชื่อว่าหากประชาชนซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศได้ให้ความร่วมมือหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเสี่ยงการติดเชื้อและท่องเที่ยวในเชิงวิถีใหม่หรือ New Normal ได้เป็นอย่างดีแล้วโอกาสที่จะให้ไทยเที่ยวไทยหรือคนไทยเที่ยวในประเทศและสร้างความสมบูรณ์แบบและเกิดประโยชน์ในภาคธุรกิจก็เป็นไปในทิศทางที่ดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
# โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เหลืออีก 7 แสนสิทธิ