ภาพรวมและแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์

ต้องยอมรับว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองด้านต่างๆเพราะอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่หลายคนเชื่อว่ามีโอกาสเติบโตได้มากที่สุดและราคาของอสังหาริมทรัพย์มีแต่จะเพิ่มพูนขึ้นทั้งในแง่ของทำเลที่ตั้งและความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้ก่อสร้าง

ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 แม้ว่าจะไม่เติบโตเท่าที่ควรหรือไม่ได้มีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ได้ตามเป้าหมาย แต่ก็ยังสามารถสร้างรายได้ได้เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ได้ถึง 2% แต่อย่างไรก็ตามสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมียอดขายและเติบโต จะเป็นธุรกิจภายใต้ผู้ผลิตอันดับต้น ๆ ของประเทศ  ที่จะได้เปรียบในเรื่องของเงินทุนและความเชื่อมั่นทั้งวัสดุ การก่อสร้าง และการดูแลหลังการขาย ที่ทำให้อสังหาริมทรัพย์ของเจ้ายักษ์ใหญ่เป็นที่ต้องการมากกว่า ทั้งในส่วนของการลงทุนและเพื่อการพักอาศัย แต่สำหรับในด้านของเช่าอสังหาริมทรัพย์จะรายได้จะเกิดความต้องการจาก Local Band มากกว่าเพราะอัตราและราคาที่ต่ำกว่าแบรนด์ชั้นนำที่จะมีเรื่องของต้นทุนทางการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตได้ทะลุเป้าหมายในภาวะวิกฤตคือบริษัทเอพีไทยแลนด์จำกัด (มหาชน) ด้วยกำไรกว่า 3,280 ล้านบาท จากยอดขายทั้งหมดกว่า 35,180 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 3 ไตรมาสเท่านั้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการเติบโตในช่วงของภาวะวิกฤตแล้ว ยังเป็นยอดขายที่สูงสุดเท่าที่ AP Thailand เคยมีมาจากนโยบายการเร่งเสริมคุณภาพของโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมให้มียอดขายเทียบเท่ากับคอนโดมิเนียมไปพร้อมกันทำให้ยอดขายเติบโตได้มากขึ้นกว่าเดิม

และในปี 2564 แนวโน้มทางเศรษฐกิจก็ยังมีผลทำให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ลดลงกว่า 9% อาจจะส่งผลให้การเติบโตของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กชะลอตัวลงแต่แนวโน้มการทำรายได้ของบริษัทขนาดใหญ่ยังสามารถเติบโตได้แต่อาจจะไม่ได้มียอดตามเป้าหมายเท่านั้นเองโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกพร้อมจะฟื้นฟูจากสภาวะต่างๆขึ้นและอาจจะเข้าสู่สภาวะปกติได้แต่อาจจะต้องใช้เวลาและกลยุทธ์มากพอสมควรการฟื้นฟูและการเติบโตจะไม่ได้รวดเร็วมากนักขึ้นอยู่กับทั้งเรื่องของสถานการณ์โลกและแนวทางเศรษฐกิจของไทย

กลุ่มคนเจเนอเรชั่นวายถือเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงอายุที่มีกำลังและสามารถลงทุนหรือเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้เจนเนอเรชั่นวายช่วงต้นเป็นช่วงของการขยับขยายที่อยู่อาศัยหรือการลงทุนเพื่อเกร็งกำไรและเจนเนอเรชั่นวายช่วงปลายจะเป็นช่วงของการซื้อบ้านหลังแรกเพื่อเป็นทรัพย์สินชิ้นแรกของตัวเองจากผลการประเมินดังกล่าวจะส่งผลให้การเติบโตและรายได้ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นและกลับสู่สภาวะปกติได้ทำให้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของปี 2564 มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นได้

# สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสร้างความเชื่อมั่นให้กับอาหารไทย