รัฐทุ่ม 2.2 หมื่นล้าน หวังปูทางธุรกิจสนามบินในอีสาน
จริงอยู่ที่การบริหารประเทศของรัฐบาลนั้น ควรจะกระจายความเจริญไปสู่ต่างจังหวัดบ้าง ไม่ใช่รวมความเจริญเอาไว้เฉพาะแต่ในกรุงเทพมหานคร แล้วปล่อยให้พื้นที่อื่นๆ ดูห่างไกลความเจริญราวกับเป็นคนละประเทศ ทั้งๆ ที่คนทั้งประเทศก็ใช้อัตราขั้นบันไดในการเสียภาษีรายได้ส่วนบุคคลและนิติบุคคลตามหลักเกณฑ์เดียวกัน
แต่อย่างไรก็ตาม การเร่งรัดพัฒนาประเทศในครั้งนี้ของกระทรวงคมนาคม ที่เตรียมบประมาณ 2.2 หมื่นล้าน ดัน 155 โครงการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผุดโครงข่ายทางหลวง และเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยาน หนุนอีสานขึ้นแท่นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงนั้นทำเราแทบจะน้ำตาลไหล ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจนะที่ต่างจังหวัดจะได้พัฒนา แต่เอาแค่โครงการรถไฟรางคู่รางเดี่ยว ตลอดจนทางมอเตอร์เวย์ที่จะเชื่อมภาคอีสานเข้ากับภาคกลางเนี่ย ทำมาแล้วตั้งหลายปีก็ยังไม่เสร็จ จนมันเลยกำหนดการรับมอบ เลยกำหนดการเปิดตัวมาได้พักใหญ่แล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จสมบูรณ์สักที แต่กลับส่งโปรเจ็คใหม่มาลง ทั้งๆ ที่โปรเจ็คเก่านี่ลดสเปคลงเรื่อยๆ แบบนี้เราต้องขอออกตัวเลยว่าไม่เข้าใจแนวคิดนี้จริงๆ
โดยล่าสุด นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยระบุว่า กระทรวงฯ ได้หารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาเห็นชอบแผนงานโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2565 เพื่อพัฒนาโครงการจำนวน 155 โครงการ งบประมาณรวมกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท อาทิ โครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงตามแนวชายแดนและแนวระเบียงเศรษฐกิจ โครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงรองรับเมืองศูนย์กลางการค้า การบริการสุขภาพ และการศึกษา งานขยายลานจอดเครื่องบินท่าอากาศยานขอนแก่น และงานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานเลย เพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ตามแผนปฏิบัติการจำนวน 6 ยุทธศาสตร์ ดังนี้
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 9,339.40 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม จำนวน 14 โครงการ วงเงิน 876.93 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างความเข้มแข็งของฐานเศรษฐกิจภายในควบคู่กับการแก้ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 82 โครงการ วงเงิน 4,376.89 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการ จำนวน 29 โครงการ วงเงิน 5,192.43 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การใช้โอกาสจากการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่เชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจหลักภาคกลางและพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อพัฒนาเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ๆ ของภาค จำนวน 25 โครงการ วงเงิน 2,187.65 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 6 การพัฒนาความร่วมมือและใช้ประโยชน์จากข้อตกลงกับประเทศเพื่อนบ้านในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดนและแนวระเบียงเศรษฐกิจ จำนวน 3 โครงการ วงเงิน 315.11 ล้านบาท
งานนี้ก็ได้แต่หวังว่าโครงการจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ตามวาระที่ได้กำหนดไว้ ไม่ใช่กลายเป็นโครงการค้างๆ คาๆ ที่เริ่มทำจริง แต่ทำไม่เสร็จและลดสเปคลงไปเรื่อยๆ เหมือนกับโครงการอื่นๆ ที่เคยเป็นมา
# โควิด 3 เดือน รายได้จากการท่องเที่ยวสูญนับแสนล้าน