ลูกหลานเจ้าสัวหัวใส ปูทางอนาคตตัวเองใหม่ไม่ตามรอยผู้ใหญ่

จริงๆ แล้วในประเทศไทยเนี่ย มีนโยบายเรื่องการพยายามจะเปลี่ยนประเทศของเราให้กลายเป็นสังคมไร้เงินสดมานานหลายปีแล้ว โดยนโยบายนี้ได้ถูกพูดถึงเป็นครั้งแรก ตั้งแต่สมัยรัฐบาลคสช แต่กว่านโยบายที่ปล่อยออกมาก็ต้องถูกพับเก็บเข้าหีบ เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อน การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตนั้นยังไม่ได้สะดวกและรวดเร็วเหมือนกันในปัจจุบัน อีกทั้งความเร็วอินเทอร์เน็ตยังช้ามากๆ

นอกจากนี้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างสมาร์ทโฟนก็ไม่ได้มีราคาย่อมเยาเอาเสียเลย แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปและมันมาถึงยุคที่ปัจจัยทุกอย่างมันพร้อมส่งเสริมให้เกิดสังคมไร้เงินสด สิ่งที่เคยหมายหมาดปรารถนาเอาไว้ ก็ดูเหมือนจะใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นทุกที จากการตั้งคำถามว่าถ้าซื้อลูกชิ้นข้างทางแล้วต้องโอนจ่าย แบบนี้จะได้กินข้าวกันมั้ย เพราะแต่ก่อนนั้นเวลาจะโอนเงินกันแต่ละทีก็มีค่าธรรมเนียมธนาคารจุกจิก ซึ่งทางรัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหาในจุดนี้ด้วยการสร้างพร้อมเพย์ขึ้นมา จนทำให้เหล่าบรรดาธนคารต่างๆ ต้องยอมถอยคนละก้าว และอนุญาติให้โอนเงินข้ามบัญชีได้ฟรีเหมือนในปัจจุบัน

และสิ่งนี้เองที่ทำให้ลูกหลานเจ้าสัวผุดโครงการสร้างบริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Upbit Thailand ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นการรับประกันมูลค่า และเป็นการลงทุนทรัพย์สินที่จะแปรสภาพจากเงินสดมาเป็นเงินดิจิทัล ซึ่งผู้ที่มองกาลไกล และคาดว่าน่าจะทำให้ อัพบิต กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทยอีกรายในอนาคตนั้น ก็เกิดจากการร่วมแรงแข็งขันของ ชัชวาลย์ เจียรวนนท์ สมโภชน์ อาหุนัย ปรีชา ไพรภัทรกุล เริ่มประกอบธุรกิจได้ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2564 เป็นต้นไป โดยได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) และใบอนุญาตนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) หลังจากได้รับการตรวจสอบขั้นตอนสุดท้ายจาก ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และในขณะนี้ ทางเพจเฟซบุ๊กของบริษัท Upbit Thailand ก็ได้เปิดตัวด้วยคำเชิญชวนให้คนไทยมาเริ่มลงทุนในทรัพย์สินดิจิทัลร่วมกันว่า Upbit Thailand เปิดให้บริการแล้ว รวมถึงได้เสนอโปรโมชันเปิดตัว คือ ค่าธรรมเนียม Maker 0% ในทุกประเภทคำสั่ง และค่าธรรมเนียม Taker ที่ 0.1% ซึ่งปัจจุบัน ผู้ใช้สามารถใช้งาน Upbit Thailand ได้จากทุกแพลตฟอร์ม ทั้งเว็บไซต์ PC, Android App และ iOS App นอกจากนี้Upbit Thailand ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด 4 ประเภท จากกระทรวงการคลังภายใต้การกำกับดูแลโดย ก.ล.ต. ประกอบด้วย ใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ศูนย์ซื้อขายโทเคนดิจิทัล นายหน้าซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี และนายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล โดย Upbit Thailand เป็นบริษัทแห่งแรกในประเทศที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทั้ง 4 ประเภท

งานนี้ก็คงต้องบอกว่า การลงทุนนั้นมีความเสี่ยง และควรใช้วิจารณญาณในการลงทุน เพราะขนาด Forex ที่ว่าแน่ ที่ลงทุนกันแน่นๆ มานานหลายปี สุดท้ายยังล่มไม่เป็นท่า เหมือนอย่างข่าวในอาทิตย์ที่แล้ว ที่ทางการระบุว่า Forex นั้นเป็นแชร์ลูกโซ่

# Resilience การบริหารแบบยืดหยุ่นที่กำลังมาแรงในช่วงโควิด