เถ้าแกน้อย เจอผลกระทบหนัก พร้อมตีโจทย์ธุรกิจใหม่
เถ้าแกน้อย “อิทธิพันธ์ พีระเดชา” เจ้าของธุรกิจสาหร่ายจากเด็กติดเกม ได้ผันตัวเองมาทำธุรกิจปัจจุบันส่งออกทั่วโลก รายได้ต่อปีนับพันกว่าล้าน แต่เนื่องด้วยปัญหาของโรคระบาดที่ผ่านมา (โควิด – 19) ทำให้ยอดขายที่ส่งออกนั้นตกลงอย่างน่าตกใจซึ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเถ้าแก่น้อย
เปิดเผยว่าในช่วงโควิด – 19 ที่ผ่านมาทำให้ยอดขายตกต่ำมาก เนื่องจากขุมทรัพย์ที่ขายดีที่สุด คือนักท่องเที่ยวของจีนจากรายได้ที่เคยได้หดลงติดลบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าประเทศได้ ทุกประเทศปิดใหม่งดการขนส่ง จึงทำให้ได้รับผลกระทบอย่างจัง และวิกฤติที่ เถ้าแกน้อย ได้เจอมีดังนี้
วิกฤติช่วงโควิด – 19 กระทบ เถ้าแกน้อย
สำหรับผลกระทบที่ได้รับจากช่วง โควิด – 19 จนทำให้เถ้าแกน้อยได้รับผลกระทบมากมายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ยอดขายจีนชะลอตัว 40%
- ยอดขายในต่างประเทศที่ส่งออกลดลง
- กำไรที่คาดไว้ไม่ถึงเป้า
จากที่เจอผลกระทบต่าง ๆ จึงทำให้ เถ้าแกน้อย ต้องรับมือดังต่อไปนี้
- ปิด เถ้าแกน้อยแลนด์ เพิ่ม 10 สาขา
- อาจจะมีการพิจารณาลดคน หรือไม่ลดหลังจากยุบโรงงานไป
- ตัดงบทางการตลาดออก
- หยุดผลิตสินค้าที่สหรัฐเป็นจ้างผลิต
- เตรียมยุบโรงนพวงศ์
เถ้าแก่น้อยสู่การเปลี่ยนแปลง ตีโจทย์ธุรกิจใหม่
และนี่ก็เป็นผลกระทบต่าง ๆ ที่ทำให้ เถ้าแกน้อย ต้องรับมือให้ได้ จึงทำให้ “อิทธิพันธ์ พีระเดชา” ตีโจทย์ตลาดในปัจจุบันให้แตกว่าตลาดในปัจจุบันนั้นต้องการอะไร และนั่นก็คือที่มาของการตีโจทย์ตีโจทย์ธุรกิจใหม่ลุยเครื่องดื่ม สู่ความต้องการของตลาด เนื่องจากมีความเชื่อว่า “เราต้องการขยายธุรกิจใหม่ที่ทำให้บริษัทได้เติบโต อะไรก็ได้เราทำหมด”
จึงทำให้มีการคิดค้น และผลิตชานมใต้หวั่น แบรนด์ชานม “จัสท์ดริ้งค์” ที่ผลิตจากต้นตำหรับแท้ รสชาติหอมอร่อย ซึ่งเป็นชานมแบบพาสเจอร์ไรส์ผลิตภัณฑ์เป็นขวดที่มีขนาดพกพาได้สะดวกสามารถเปิดดื่มได้ง่าย และจนถึงตอนนี้สาขาที่มีการผลิตออกไปถือว่าเป็นกระแสตอบรับที่ดีอย่างมาก สามารถตอบโจทย์ตลาดแตก พร้อมตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 200 – 300 ล้านบาทอีกด้วย
หาซื้อ แบรนด์ชานม “จัสท์ดริ้งค์” ได้จากช่องทางไหนบ้าง?
สำหรับช่องทางที่สามารถหาซื้อ และลองดื่มกันได้สามารถหาซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อทั่วไปอย่าง “เซเว่นอีเลฟเว่น” 6,000 สาขา เนื่องจากเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการอย่างแท้จริง สามารถซื้อง่าย สะดวก ไปที่ไหนก็เจอแต่ เซเว่นอีเลฟเว่น อย่างแน่นอน
และสุดท้ายการตีโจทย์ใหม่ทำธุรกิจเครื่องดื่ม ถือว่ากำลังเป็นไปได้ดี แต่สาหร่ายก็ยังคงเดินหน้าผลิตต่อไป ถึงแม้วิกฤติจะทำให้แย่ลงบ้าง แต่ก็ควรพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสต่อยอดหาอะไรใหม่ ๆ พร้อมทั้งเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าให้ได้ เพราะการทำตลาดไม่ใช่เหมือนเกม อาจจะมีประเทศอื่นที่กำลังทำเหมือนเรา ดังนั้นเราต้องเอาชนะให้ได้
# ดีแทค ยืดอก พร้อมชดเชยให้กับลูกค้าพลาดจาก คนละครึ่ง เฟส 2