อังคาร. พ.ค. 30th, 2023
โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เหลืออีก 7 แสนสิทธิ

โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เหลืออีก 7 แสนสิทธิ

หลังจากวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ทาง ททท ได้ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบข้อมูลผู้เข้าข่ายกระทำความผิด เนื่องจากพบความผิดปกติของธุรกรรมทางการเงินในโครงการเราเที่ยวด้วยกันพร้อมรายชื่อผู้ประกอบการที่เข้าข่ายกระทำผิดเงื่อนไขของโครงการฯ ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยมีท่านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้รับหนังสือดังกล่าวไว้

โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เหลืออีก 7 แสนสิทธิ

เหตุผลที่ต้องมีการตรวจสอบ

การเข้าร้องเรียนในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก ททท. ได้ตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันแล้วพบความผิดปกติ ซึ่งมีลักษณะ พฤติการณ์ที่ต้องสงสัยว่าจะมีการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการฯ หลายรูปแบบ กล่าวคือ มีโรงแรมจำนวน 312 แห่ง ร้านค้าจำนวน 202 ร้าน ที่เข้าข่ายพฤติกรรมต้องสงสัย โดยทาง สตช.รับว่าจะเดินหน้าทำการสืบสวนและแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ในการดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและป้องกันการกระทำผิดที่อาจจะเกิดขึ้นต่อๆ ไปในอนาคตได้ด้วย เนื่องจากโครงการนี้ทางภาครัฐเตรียมเพิ่มเฟส 2 หรือระยะที่ 2 ต่อไปอีกนั่นเอง

โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เหลืออีก 7 แสนสิทธิ

พฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่าน่าจะเกิดการทุจริตหรือทำผิดเงื่อนไขขึ้น ตัวอย่างเช่น การเข้าเช็กอินในโรงแรมราคาถูก แต่ไม่ได้มีการเข้าพักจริง ซึ่งจะได้ประโยชน์ในการได้รับสิทธิอีคูปองที่รัฐมอบให้ไปใช้จ่าย / โรงแรมขึ้นราคาค่าห้องพักสูงเกินจริง และยังรู้เห็นเป็นใจกับร้านอาหาร หรือร้านค้าที่รับชำระคูปอง และมีการขายสิทธิกัน / โรงแรมที่ปิดตัวลงและยังไม่กลับมาเปิดตามปกติ แต่มีการลงทะเบียนตามปกติ และขายห้องพักเหมือนกลับมาเปิดเป็นปกติแล้ว / มีการใช้ส่วนต่างของอีคูปอง เพื่อรับส่วนต่างเต็มจำนวน ด้วยการเพิ่มราคาอาหารไปมากกว่ามูลค่าอาหารที่แท้จริง / มีการเข้าพักจริง แต่เข้าพักแบบเป็นกรุ๊ปเหมา โดยตั้งราคาห้องพักในระดับสูง และสามารถรับเงินส่วนต่างที่ตกลงกันไว้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างโรงแรมและผู้เข้าพัก / โรงแรมที่เปิดขายห้องพักเกินจำนวนจริงที่มี แล้วจำนวนห้องที่เกินมาจะนำไปขายต่อให้กับโรงแรมอื่น เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง เป็นต้น

สภาพของโครงการเราเที่ยวด้วยกันในปัจจุบันหลังการร้องเรียน

โครงการเราเที่ยวด้วยกันในวันนี้ยังคงเหลือสิทธิที่พักโรงแรม 700,000 สิทธิ และสิทธิตั๋วเครื่องบินอีก 1.4 ล้านสิทธิซึ่งยังสามารถขอใช้สิทธิได้ถึงสิ้นเดือนเมายน 2564 ปรากฏว่ามีแนวโน้มที่จะต้องขยายระยะเวลาของการใช้สิทธิออกไปอีกและคาดว่าน่าจะขยายยาวไปถึงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 เรื่องจากปัจจุบันเกิดการระบาดของโรคโควิด19 ระลอกที่ 2 ในไทยอีกครั้งหนึ่ง และมีตัวเลขผู้ติดเชื้อ และจังหวัดในกลุ่มเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน จนเกือบจะครอบคลุมทั่วทุกจังหวัดของประเทศแล้ว

หลังจากที่มาตรการ เราเที่ยวด้วยกัน ถูกขยายระยะเวลาโครงการให้ยาวนานขึ้น ครอบคลุมไปถึงเทศกาลสงกรานต์ เลยไปถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 และคาดว่าจะขยายระยะเวลาออกไปอีกเพื่อหวังกระตุ้นให้ประชาชนเกิดการท่องเที่ยวพร้อมกับมติ ครม.ได้กำหนดวันหยุดยาวเพิ่มเติมทั้งส่วนกลางที่ใช้เหมือนกันทั้งประเทศและวันหยุดพิเศษเฉพาะภูมิภาคอีกด้วยโดยการกำหนดวันหยุดเพิ่มเติมนี้ในส่วนของธุรกิจห้างร้านเอกชนและร่วมมือปฏิบัติตามหรือไม่อย่างไรให้เป็นดุลพินิจเฉพาะรายไปรัฐบาลไม่มีการบังคับ

นับถึงขณะนี้ช่วงสัปดาห์แรกของปี 2564 ปรากฏว่าเหลือสิทธิที่พักตามโครงการเราเที่ยวด้วยกันถึง 7 แสนสิทธิ ขณะที่สิทธิตั๋วเครื่องบินเหลืออยู่ประมาณ 1.4 ล้านสิทธิ ซึ่งทางรัฐบาลหวังว่าการแพร่ระบาดของโควิด19 จะลดลงและควบคุมได้เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สิทธินี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนจะเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งสามารถใช้สิทธิได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงจังหวัดตามทะเบียนบ้านของผู้มีสิทธิด้วย 

บทสรุปโครงการเราเที่ยวด้วยกันวันนี้

การสนับสนุนส่วนลดค่าโรงแรมที่พักตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ทั้งนี้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืนเช่นเดิม

 

# ทุจริต “เราเที่ยวด้วยกัน” โครงการรับดีแค่ไหน แต่คนไทยไม่ช่วยกันมันก็เท่านั้น

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *