โควิด 19 ภัยอันตรายของคนมีหนี้สิน
การแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลกระทบอย่างด้านเศรษฐกิจต่อครัวเรือน, ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็กอย่างสูง ทำให้การชำระหนี้สินต้องสะดุดตัวลง หมุนเงินแทบไม่ทัน นับว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ส่งต่อไปยังภาคอื่นได้ ยกตัวอย่าง ความเสี่ยงจากการต่ออายุตราสารหนี้เอกชน และคุณภาพของสินเชื่อ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องเข้ามามีบทบาทในการดูแลธุรกิจเหล่านี้
สาเหตุที่เกิดปัจจัยเหล่านี้
- การเติบโตของภาคการส่งออก
มีการเติบโตที่ไม่ค่อยน่าพอใจเท่าใดนักติดลบต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือนอาจมีหลายสาเหตุเช่นค่าเงินแข่งไม่ได้สงครามการค้าปัญหาโครงสร้างการผลิตหรือความต้องการซื้อของลูกค้าน้อยลงบ้าง
- การเติบโตของภาคการท่องเที่ยว
ก็ไม่เป็นที่น่าพอใจเช่นเดียวดัน นับตั้งแต่มีโรคระบาดโควิด 19 มา ส่งผลให้การท่องเที่ยวซบเซา มีนักท่องเที่ยวน้อยลง จากเดิมที่ตามสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ จะมีเม็ดเงินมหาศาลเข้ามา ก็ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด
- การเปลี่ยนผ่านของคณะรัฐบาล
นับตั้งแต่หลังการเลือกตั้งมา ก็เกิดความขัดแย้งขึ้นในบางจุด ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลก็เกิดความกังวลใจว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะไม่ต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้ว
ผลกระทบที่เห็นได้ชัดในปัจจุบัน
- สินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตถูกคุมเข้ม
การอนุมัติสินเชื่อมีความเข้มข้นสูงมากกว่าเมื่อก่อน มีการนำเอาอัตราส่วนหนี้ที่ต้องชำระพร้อมกับรายได้มาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ทำให้การอนุมัติสินเชื่อเป็นไปได้ยากขึ้น
- มีการสำรวจหนี้สินครัวเรือนไทย
ธนาคารกลางจับมือร่วมกับสถาบันจัด Rating ได้ทำการสำรวจหนี้สินของครัวเรือนไทยพบว่าปัญหาหนี้สินเกินตัวนั้นเป็นปัญหาใหญ่มาก ยกตัวอย่างเช่น มีรายได้ 1,000 บาท แต่ต้องเอาไปชำระหนี้สิน 800 บาท นั่นคือ จะมีเงินไว้ใช้กินอยู่ 200 บาทเอง ซึ่งมันเกินขนาดไป
- มีการปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้นตลอดจากเดิม 1.5 แสนล้าน ตอนนี้ก็ได้พุ่งพรวดขึ้นมาเป็น 8 แสนล้าน ถ้าหากมีเหตุมาซ้ำเติมเช่น ดอกเบี้ยฐานเพิ่มขึ้น (MRR) จะทำให้ภาระที่แบกอยู่ยิ่งหนักขึ้นไปใหญ่
ฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลจะทำในตอนนี้ได้ก็คือ การช่วยเหลือธุรกิจและครัวเรือนอย่างตรงจุด การให้สินเชื่อและปรับโครงสร้างหนี้เชิงรุกเพื่อเพิ่มโอกาสสำหรับคนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะที่ภาคครัวเรือนจะเน้นการปรับโครงสร้างหนี้ มีมาตรการเพิ่มรายได้ และลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลง
# โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เหลืออีก 7 แสนสิทธิ